[BAP] Valentine's Day - Himchan x Daehyun - [BAP] Valentine's Day - Himchan x Daehyun นิยาย [BAP] Valentine's Day - Himchan x Daehyun : Dek-D.com - Writer

    [BAP] Valentine's Day - Himchan x Daehyun

    Valentine's Day ความรักของเรามันเป็นแบบไหน และมันเริ่มต้นขึ้นได้อย่างไรกันนะ

    ผู้เข้าชมรวม

    394

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    6

    ผู้เข้าชมรวม


    394

    ความคิดเห็น


    3

    คนติดตาม


    2
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  14 ก.พ. 57 / 01:43 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น

    Happy Valentine’s Day

     

    วันวาเลนไทน์ปีนี้ตรงกับวันมาฆบูชา

     

    และความรักของเราก็จะเกิดขึ้นโดยมิได้นัดหมาย

     

     

     

     

     

    จุดเริ่มต้น ของเราเป็นแบบไหน?

     

    ตั้งแต่เมื่อไรที่เราได้มา รักกัน แบบนี้

     

    และ ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ มันนานมากแค่ไหนแล้วนะ

     

    และเราจะอยู่แบบนี้กัน ตลอดไป ใช่ไหม?

     

    รัก...





    pic cr: Vocal&Visual





     

    ป.ล. ป่วงละเกิน... =__________=
     

     



     

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      Title: Valentine

      Couple: Kim Himchan x Jung Daehyun

                  February 14th

       

       

       

       

       

                  วันวาเลนไทน์ วันแห่งความรัก

       

       

       

       

                ถ้าจะย้อนไปสมัยที่เริ่มจีบกันแรกๆ คงต้องย้อนไปในช่วงสมัยเริ่มทำงานแรกๆ

       

       

       

       

       

                เจอกันวันแรกในวันวาเลนไทน์นี่แหละ

       

       

       

       

       

       

       

       

       

       

       

       

                 

       

       

       

       

       

       

                  วันนี้เป็นวันวาเลนไทน์ ร้านรวงต่างๆ ตกแต่งด้วยโทนสีหวานและหัวใจเต็มไปหมด ดูสวยงามเสียเหลือเกิน แต่ถ้าสำหรับคนไม่มีความรักมันก็คงจะดูห่อเหี่ยวอยู่ไม่น้อย

       

                  “อะไรนะ?”

       

                  ชายร่างสูงกรอกเสียงลงไปตามโทรศัพท์ ขายาวก็เดินไปตามร้านค้าต่างๆ สายตาสอดส่องมองเข้าไปทุกร้าน แต่ไม่ยักจะแวะเข้าสักร้าน ที่คอก็คล้องสายกล้องตัวเก่งเอาไว้ไม่ห่างตัว

       

                  [ก็ไม่หรอก พอดีพวกกูมีอีเว้นท์เล็กๆ จำที่เราเคยทำตอนปี 4 ได้ป้ะวะ?]

       

                  “ได้ดิ ที่ไปเป็นตัวแทนสารภาพรักในวันนวาเลนไทน์น่ะนะ?”

       

                  [เออ! กูเลยอยากให้มึงมาร่วมด้วย มาเล่นกีต้าร์ให้ สนมั้ย?]

       

                  ชายร่างสูงส่ายหัว แต่สุดท้ายก็ตอบตกลงไปเพราะตัวเองก็กำลังว่างๆ อยู่เหมือนกัน อยู่คนเดียวมันเหงาๆ ไปหาอะไรทำแก้เซ็งบ้างก็น่าจะดี

       

       

       

       

       

       

       

       

       

                  “นั่นไงมันมาละ เฮ้ย!! คิมฮิมชาน!

       

                  ฮิมชานฉีกยิ้ม ก่อนจะเดินเข้าไปหาพลางโบกมือทักทายให้กับกลุ่มเพื่อนที่วันนี้แต่ละคนเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี ทั้งถังใส่ดอกกุหลาบ ทั้งอะไรสารพัดเต็มไปหมด เพื่องานนี้โดยเฉพาะ ใครผ่านไปผ่านมาก็แวะเข้าไปไปคุยด้วยเล็กน้อยก่อนจะได้ดอกกุหลาบติดมือไปคนละดอกสองดอก

       

                  “แหม~ พร้อมนะพวกมึงน่ะ”

       

                  “แน่นอน นี่ของมึง ถึงจะไม่ใช่ลูกรักมึงก็เถอะ”

       

                  บังยงกุกยื่นกีต้าร์โปร่งสีน้ำตาลให้เพื่อนรัก ที่อุตส่าห์ไปหายืมมาจนได้ ฮิมชานรับมาก่อนจะดีดลองเสียงเล่นๆ

       

                  “กูไม่ได้เล่นมานานละ”

       

                  “ก็แหง งานมึงแม่งจับแต่กล้องนี่หว่า”

       

                  ฮิมชานยิ้มให้กับคำพูดนั้น ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ที่ถูกจัดไว้สำหรับตัวเอง ตอนนี้พวกเขาทั้งหมดกำลังนั่งเล่นรอให้มีใครสักคนมาใช้บริการ  และลูกค้ารายแรกก็เดินมาถึง

       

                  “สวัสดีค่ะ อะ.. เอ่อ...”

       

                  หญิงสาวหน้าตาน่ารักคนหนึ่งยืนอ้ำอึ้งพร้อมกับชี้นิ้วไปที่ป้ายโปสเตอร์ด้านหลังที่ติดเอาไว้ เพื่อบอกให้รู้ว่าคนกลุ่มนี้ ยินดีจะไปช่วยสารภาพรักกับคนที่คุณแอบชอบ ฮโยซองสาวสวยประจำกลุ่มออกไปต้อนรับอย่างดี เพราะเห็นว่าอีกคนคงจะเคอะเขินน่าดู

       

                  “ต้องการให้เราไปสารภาพรักกับใครรึเปล่าคะ เรายินดีช่วยให้คุณสมหวังได้นะ”

       

                  “จริงหรอคะ?”

       

                  หญิงสาวแววตาเป็นประกายขึ้นมาทันที พร้อมกับรอยยิ้มที่น่ารักจนพวกเขาเองยังหลงเลย

       

       

       

       

       

       

       

       

       

       

       

       

       

                  และแล้วพวกเขาทั้งหมด 6 ชีวิต รวมผู้มาใช้บริการเป็น 7 ก็มาหยุดอยู่ที่ร้านเบเกอรี่แห่งหนึ่งตามคำบอกเล่าของหญิงสาวนามว่า ซนนาอึน

       

                  สรุปคร่าวๆ คือ ซนนาอึนต้องที่จะมาบอกรักผู้ชายที่ตัวเองแอบชอบมาตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย นามว่า อีแทมิน แต่เพราะไม่กล้าเลยได้แต่แอบมองมาจนกระทั่งเข้าวัยทำงาน และอาจจะเป็นโชตชะตาที่ทำให้พวกเขาทั้งคู่ได้ทำงานที่เดียวกัน เพียงแต่เป็นคนละแผนกก็เท่านั้น

       

                  “อ่า~ คนนั้นน่ะค่ะ คนที่ใส่เสื้อเชิ้ตที่ฟ้าอ่อน”

       

                  นาอึนชี้ไปที่กลุ่มผู้ชาย 4 คนที่กำลังนั่งพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน พวกเขาทั้ง 6 คนวางแผนเล็กๆ น้อยๆ ก่อนจะส่งตัวแทนเข้าไปเจรจากับเจ้าของร้าน เมื่อได้ความว่าโอเค พวกเขาก็เริ่มปฏิบัติการ

       

       

       

       

       

       

                  คิมฮิมชานเดินถือกีต้าร์ควงคู่ไปกับซงจีอึน เมื่อหยุดอยู่ตรงหน้าเป้าหมาย เสียงกีต้าร์พร้อมกับเสียงร้องใสๆ ก็เริ่มขึ้น ก่อนที่ลูกสมุนอีก 4 คนจะเดินตามมาสมทบ ในมือถือกุหลาบคนละดอก รวมร้องเพลงประสานกัน จนในที่สุดเพลงสารภาพรักก็จบลง พร้อมกับเปิดตัวนาอึนที่ในมือมีดอกกุหลาบแดงช่อใหญ่

       

                  กลุ่มเพื่อนที่นั่งอยู่ด้วยกันในตอนแรก ค่อยๆ ลุกขึ้นยืนแล้วเดินเลี่ยงออกจากโต๊ะ แต่ก็ไม่วายส่งสายตาล้อเลียนให้เพื่อนสนิท

       

       

       

       

       

       

                  แต่ไม่รู้ทำไม...

       

       

       

       

       

       

                  ตั้งแต่ก้าวเข้ามาในร้าน คิมฮิมชานไม่สามารถละสายตาจากชายร่างเล็กในเสื้อเชิ้ตสีขาวที่น่าจะมีรอยยิ้มหวานยิ่งกว่าเค้กที่เจ้าตัวลิ้มลอง กว่าเขาจะคุมสติให้เล่นกีต้าร์จนจบเพลงได้ ก็แทบบ้า ยิ่งตอนนี้อีกคนลุกมายืนอยู่ข้างๆ เขาโดยไม่ได้ตั้งใจ ฮิมชานก็ยิ่งคุมสติตัวเองไม่อยู่

       

       

       

                  เขารู้สึกถึงกลิ่นคาราเมลที่หอมหวานอบอวลอยู่รอบๆ

       

       

       

       

                  “โอ๊ะ!

       

                  “โทษๆ”

       

                  บังยงกุกที่เขยิบมาชนฮิมชาน ทำให้เจ้าตัวที่กำลังเหม่อๆ อยู่ไม่ทันได้ทรงตัว เซไปหาคนข้างกาย พอโดนตัวกันปุ๊บ ฝ่ามือใหญ่ก็ตะปบเข้าที่สะโพกของอีกคนอย่างไม่ได้ตั้งใจ ก็แค่เกรงว่าอีกคนจะล้ม เพราะคนโดนชนก็ใช่ว่าจะตัวใหญ่ที่ไหน ตัวเท่าลูกแมวนี่!

       

                  “ขอโทษครับ พอดี... ไม่ได้ตั้งใจ”

       

                  ได้สติก็รีบปล่อยมือทันที พร้อมกับก้มหัวให้เป็นเชิงขอโทษ แต่อีกคนนี่สิ กลับส่งยิ้มอวดฟันสวยมาให้ราวกับไม่ถือโทษโกรธอะไรกันเลย

       

       

       

       

                  คิมฮิมชานขอเพ้อ -//////////////////-

       

       

       

                 

       

                  “เฮ้ยถ่ายรูป!

       

                  ฮโยซองยืนกล้องถ่ายรูปของเขาที่ฝากเอาไว้ก่อนหน้ามาให้ ฮิมชานรับมันมาก่อนจะเริ่มรัวชัตเตอร์อย่างที่มืออาชีพควรจะเป็น

       

                  “ขอบคุณพวกพี่มากเลยนะคะ”

       

                  นาอึนโค้งให้พวกเขาทั้ง 6 เป็นการขอบคุณ หลังจากที่ภารกิจสำเร็จลุล่วงไปได้ดี ก่อนที่คนทั้งคู่จะขอตัวไปเดตกันสองต่อสอง โดยที่อีแทมินได้ปล่อยเพื่อนอีก 3 คนให้มองกันตาปริบๆ

       

                  “หมดธุระแล้วพวกเราก็ต้องขอตัวก่อนนะ”

       

                  ฮโยซองเอ่ยลากลุ่มเพื่อนทั้ง 3 คนก่อนจะค่อยๆ พากันเดินออกจากร้าน เหลือแต่คิมฮิมชานที่ยังคงยืนนิ่งอยู่

       

                  “เพื่อนไปแล้ว ไม่ไปหรอครับ?”

       

                  1 ใน 3 คนเอ่ยกับเขา มั่นใจได้ว่าไม่ใช่ลูกแมวกลิ่นคาราเมลนั่นแน่ๆ ฮิมชานสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนจะยืนนามบัตรของตัวเองให้อย่างมึนงง

       

                  “นี่เป็นนามบัตรนะครับ ใช้บริการได้ทุกเมื่อ ลาก่อนครับ”

       

                  ยัดนามบัตรใส่มือลูกแมวแล้วก็รีบสปีดตัวเองออกจากร้านไป โดยที่ไม่หันกลับมามองว่าอีก 2 คนที่ไม่ได้นามบัตรกำลังทำหน้าอย่างไร

       

                  “หล่อ... แต่โก๊ะไปนิดนึง”

       

                  ยูยองแจทำเพ้อฝัน ก่อนจะส่ายหัวอย่างผิดหวังเล็กน้อย

       

                  “กูว่าไม่นิดนะ”

       

                  คิมจงอินเอ่ยขัด แล้วส่ายหัวเหมือนยองแจ

       

                  “แต่พี่เขาก็น่ารักดีออก...”

       

                  แต่อยู่ดีๆ คนที่กำลังพลิกนามบัตรที่อีกคนยัดเยียดใส่ให้ไปมาด้วยรอยยิ้มที่คาดเดาได้ไม่ยาก ก่อนที่เจ้าตัวจะละสายตาขึ้นมามองเพื่อนซี้อีก 2 คนที่จ้องหน้าเขาอย่างจับผิด

       

                  นามบัตรที่ระบุชัดเจนว่าตัวเองเป็นตากล้องมืออาชีพ ไม่ใช่พวกบริการสารภาพรักอะไรทำนองนั้น เบอร์โทรศัพท์ แอคเคาท์โซเชียลต่างๆ รวมไปถึงบล็อกส่วนตัว ทุกอย่างอยู่ในนามบัตรนี้หมดแล้ว

       

                  “คิมฮิมชาน...”

       

                  ริมฝีปากเอ่ยชื่อของอีกคนออกมาแผ่วเบา รอยยิ้มผุดขึ้นบนใบหน้าอีกครั้ง ช่องทางการติดต่อครบแบบนี้แอบตีความไปเองได้มั้ย ว่าตากล้องมืออาชีพคนนี้กำลังอ่อยเขาอยู่...

       

       

       

       

                  “จองแดฮยอน!!!!!

       

       

       

       

       

       

       

       

       

       

       

       

       

       

       

                  วันนี้เป็นวันหยุดพักร้อนประจำปี และแน่นอนว่าช่วงหยุดยาวแบบนี้จองแดฮยอนหนีไปไหนไม่ได้หรอก นอกจากบ้านเกิดของตัวเอง ปูซานที่รัก...

       

                  ร่างเล็กกำลังยืนอ้าแขนรับลมอยู่ริมทะเล กลิ่นอายที่เขาคิดถึงมาแสนนานตั้งแต่ไปเรียนมหาลัย ถ้าไม่ปิดเทอมก็แทบจะไม่ได้กลับบ้านเลย คิดถึงจะแย่

       

                  “เขาทำอะไรกันนะ?”

       

                  แดฮยอนเหลือบไปเห็นคนกลุ่มใหญ่ที่กำลังทำอะไรสักอย่าง เมื่อลองสาวเท้าเปลือยเปล่าเข้าไปใกล้ๆ ก็พบว่าเป็นกลุ่มคนที่มาถ่ายรูปพรีเวดดิ้งนั่นเอง แดฮยอนอมยิ้มให้กับภาพน่ารักของคนทั้งคู่ ก่อนจะสะดุดเข้ากับตากล้องที่หน้าตาดูคุ้นเคยเสียเหลือเกิน แม้เวลาจะผ่านไปเดือนกว่าๆ แต่เขาก็ยังจำชื่อ แอคเคาท์ต่างๆ รวมไปถึงตัวเลข 10 หลักที่ปรากฏบนนามบัตรนั้นได้ เขาติดตามบล็อกของอีกคนจนแทบจะกลายเป็นแฟนคลับไปแล้ว

       

                  ไม่รู้ว่านานเท่าไร แต่รู้ตัวอีกทีพวกเขาก็ทำงานกันเสร็จเรียบร้อย เจ้าสาวกับเจ้าบ่าวพากันเดินกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ส่วนทีมงานส่วนใหญ่ก็กำลังเก็บของกันอย่างรีบเร่ง เหลือแต่เพียงตากล้องหนุ่มที่กำลังเพลินกับกับการถ่ายรูปวิวทะเล

       

                  ขายาวที่ค่อยๆ ก้าวเดินจากไป ลัดเลาะตามริมหาดอย่างใจเย็น และไม่รู้ว่าเมื่อไร ที่แดฮยอนค่อยๆ เดินตามอีกคนไปราวกับโดนมนต์สะกด

       

       

       

                  “โอ๊ย!

       

                  เสียงหวานร้องลั่น เรียกให้คนข้างหน้าหันมามอง ก่อนจะรีบวิ่งเข้ามาหาอย่างรีบร้อน

       

                  “เป็นอะไรมั้ยครับ?”

       

                  ฝ่ามือใหญ่จับที่เท้าของแดฮยอนอย่างแผ่วเบา ก่อนจะดึงเปลือกหอยที่ปักคาเท้าอีกคนออก ผ้าเช็ดหน้าถูกดึงออกมาจากกระเป๋าเสื้อ ตั้งท่าจะเอาไปกดห้ามเลือด แต่อีกคนกลับห้ามเสียก่อน

       

                  “อ๊ะ! มะ... ไม่เป็นไรครับ”

       

                  “ไม่เป็นไรได้ไง เลือดออกขนาดนี้ อย่าดื้อสิ!

       

                  ทั้งสองดึงดันก็กันอยู่นาน สุดท้ายฮิมชานเอาผ้าเช็ดหน้าของตัวเองไปกดแผลที่เท้าของอีกคนไว้ได้

       

                  “ไม่เห็นต้องลำบากเลยครับ”

       

                  แดฮยอนตอบอ้อมแอ้ม ก่อนจะช้อนตามองอีกคนที่ตั้งแต่มาถึงยังไม่มองหน้าเขาเลยสักนิด

       

                  “มะ...”

       

                  จู่ๆ เสียงก็ขาดห้วงไป เพราะใบหน้าคุ้นเคยที่ลอยเด่นอยู่ตรงหน้า ใบหน้าที่คิมฮิมชานไม่มีวันลืมเลย อยู่ดีๆ อีกคนก็นิ่งไป จนแดฮยอนต้องเรียกสติของอีกคน

       

                  “คุณครับ?”

       

                  “อะ... เอ่อ...”

       

                  “ครับ?”

       

                  แดฮยอนเอียงคอมองอย่างสงสัยกับท่าทีที่เปลี่ยนไปของอีกคน

       

                  “ปะ... เปล่าครับ เปล่า ยืนไหวมั้ย?”

       

                  แดฮยอนพยักหน้ารับ ก่อนจะค่อยๆ พยุงตัวเองขึ้น แต่สุดท้ายก็ล้มลงใส่อ้อมกอดของอีกคนที่รอรับอยู่

       

                  “ให้ผมไปส่งนะครับ”

       

                  ฮิมชานหันหลังให้อีกคน เป็นการบอกว่าให้แดฮยอนขึ้นหลังเขามา แม้ว่าแดฮยอนจะอึกอักไม่ยอมขึ้น แต่สุดท้ายก็ต้องพ่ายแพ้แก่ความพยายามของฮิมชาน ยอมขึ้นหลังให้อีกคนไปส่งกลับบ้านแต่โดยดี

       

       

       

       

       

       

       

       

       

       

       

                  หลายเดือนผ่านไป คนทั้งคู่ได้ติดต่อกันบ่อยขึ้น และสิ่งที่ทุกๆ คนทั้งกลุ่มเพื่อนของฮิมชานและกลุ่มเพื่อนของแดฮยอนสัมผัสได้ นั่นก็คือ

       

       

       

                  คิมฮิมชานกำลังจีบจองแดฮยอน

       

       

       

                ฟันธง!!!!

       

       

       

       

                  “เมื่อไรมึงจะรับรักพี่เขาสักทีวะ?”

       

                  ยองแจเอ่ยกับแดฮยอนที่กำลังลิ้มรสของช็อกโกแลตชีสเค้กที่เจ้าตัวก็กินอยู่เป็นประจำ จงอินพยักหน้าเป็นเชิงเห็นด้วย แม้ว่าพี่คนนั้นจะดูเพี้ยนๆ ไปสักหน่อย แต่ก็ดูจริงจังกับเพื่อนของเขาอยู่ไม่ใช่น้อยเลย

       

                  “ระ... รับรักอะไรกันเล่า! ไม่ได้ชอบสักหน่อย”

       

                  แดฮยอนโวยวาย ก่อนจะก้มหน้าก้มตาจัดการกับเค้กตรงหน้าอย่างรวดเร็ว

       

                  “พวกกูไม่โง่นะครับคุณจอง แหม~”

       

                  จงอินพูดก่อนจะเอื้อมมือไปผลักหัวแมวจอมตะกละ ที่ทั้งๆ ที่ตัวเองก็รักเขาแทบบ้า แต่ไม่ยอมตกลงเป็นแฟนกับเขาสักที พวกเขา 2 คนเป็นพยานได้เลย

       

       

       

       

       

       

                  ว่าจองแดฮยอนรักคิมฮิมชานจนแทบคลั่งตาย

       

       

       

       

       

       

                  คืนนี้เป็นอีกคืนที่จองแดฮยอนนั่งทำงานอยู่จนดึกดื่น แต่แม้จะดึกแค่ไหน ตัวแดฮยอนเองก็ไม่ลืมที่จะเข้าไปเช็ครูปภาพในบล็อกของช่างภาพมืออาชีพ ที่เขาสถาปนาตัวเองเป็นแฟนคลับอย่างเป็นทางการ ภาพทุกภาพของเขามันสามารถบ่งบอกถึงความรู้สึกที่คนถ่ายต้องการสื่อ ปกติแดฮยอนก็เป็นพวกที่ชอบศิลปะหรืออะไรทำนองนี้อยู่แล้ว ดังนั้น แดฮยอนเลยไม่เคยเบื่อที่จะต้องมานั่งติดตามบล็อกของอีกคนอยู่ทุกวัน

       

                  แดฮยอนเลื่อนดูรูปทุกรูปอย่างช้าๆ ซึมซับความรู้สึกทุกอย่าง อ่านคำบรรยายทุกรูปภาพ เลื่อนมาจนถึงภาพที่ขึ้นหัวข้อใหญ่เอาไว้

       

       

                  ปูซาน

       

       

       

                  แดฮยอนอมยิ้มให้กับภาพชายทะเลที่อีกคนถ่าย ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นวันแรกที่เขาและฮิมชานเจอกันที่ปูซาน เขาจำภาพาที่เขาเดินตามอีกคนได้ขึ้นใจเลยล่ะ ถัดมาเรื่อยๆ ก็เป็นรูปวันที่ 2 วันที่ 3 จนถึงวันสุดท้ายที่ฮิมชานจะกลับโซล แม้บางรูปจะมีวิวที่เหมือนกัน แต่เวลาที่แตกต่างกันก็ทำให้ความรู้สึกมันเปลี่ยนไป

       

       

       

       

                  ความสวยงามของปูซาน…’

       

                 

       

       

       

                  แดฮยอนถึงกับหน้าขึ้นสี แม้รูปแรกของคำบรรยายนี้จะเป็นรูปวิวที่สวยงาม แต่ภาพของคนที่กล้องไม่ได้โฟกัสนั้น แม้จะเลือนรางแต่เขาก็รู้ว่านั่นคือใคร

       

                  ยิ่งรูปที่ 2 ยิ่งตอกย้ำความมั่นใจ เพราะจุดโฟกัสที่เปลี่ยนจากวิวมาเป็นใบหน้าคนแทน และมันก็ไม่มีแค่นั้น มันกลับมีหลายรูป และหลายอิริยาบถที่เขาไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่าโดนแอบถ่าย

       

                  “คนบ้า!

       

       

       

       

       

       

       

       

       

       

                  “แดฮยอน! มีคนถามหามึง”

       

                  จงอินเดินมาสะกิดแดฮยอนที่กำลังทำงานอย่างไม่สนใจโลก ดวงตากลมโตละสายตาออกมาจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ เขาปลดแว่นออกก่อนจะลุกเดินตามอีกคนไปอย่างง่ายดาย แม้จะมีอาการงงงวยอยู่บ้าง แต่เดี๋ยวก็คงจะรู้เองแหละ

       

       

                  แดฮยอนคิดว่างั้นนะ

       

       

                  “จะไปไหนวะ?”

       

                  แดฮยอนเดินตามอีกคนมาที่ดาดฟ้า ประตูถูกเปิดออกก่อนจะจงอินจะผลักให้อีกคนเข้าไป ลมเย็นปะทะเข้าเต็มๆ จากอากาศที่เย็นลง ทำให้แดฮยอนเผลอยกแขนขึ้นมากอดตัวเอง

       

       

                  เสียงเปียโนที่ดังแทรกขึ้นมา ทำให้แดฮยอนหันไปมองที่ต้นเสียง ก่อนจะอดไม่ได้ที่จะระบายยิ้มออกมาอย่างช่วยไม่ได้ บรรยากาศแบบนี้ รู้สึกคุ้นๆ เหมือนเคยเจอมาเมื่อหลายเดือนก่อน

       

                  เสียงหวานของยูยองแจเพื่อนรักของเขาขับกล่อมด้วยบทเพลงที่ตัวเขาเองชอบฟังและมักจะไปร้องที่ห้องคาราโอเกะด้วยกันอยู่บ่อยๆ

       

                  แต่เหนือสิ่งอื่นใด สิ่งที่เขาสะดุดตาที่สุดคือผู้ชายที่อยู่หลังเปียโนหลังใหญ่ แม้เขาจะไม่รู้ว่าพากันขนย้ายมันขึ้นมาบนดาดฟ้าบริษัทได้อย่างไร แต่ตอนนี้แดฮยอนยืนยิ้มแก้มแทบปริแล้ว

       

      ~ นูนนึล เตล ซูกา ออบซอ แน นุนเนน นอมัน โบยอ

      (ตอนนี้ไม่มีอะไรที่จะทำให้ฉันหยุดมองเธอได้)

      นอมัน คเยซก พาราโบโก ชิบจานา นัน โอ ชองมัล

      (ฉันมองเพียงแต่เธอเสมอ)
      เน ฮารูฮารูกา นอมู เฮงโบเคซอ โอ Baby

      (วันแต่ละวัน ฉันจะอยู่อย่างมีความสุข โอ~~ ที่รัก)
      อีรอน นารี กึดนาจี อันคิล โมดึนเก ทา พยอนาจี อันคิล โอ

      (ฉันไม่อยากให้วันนี้ต้องจบลง ทุกอย่างจะไม่เปลี่ยนแปลงไป โอ~~)

      นีกา นอมู โคมับจานา โอ Baby

      (ฉันขอบคุณเธอมากจริงๆ)
      นีกา นอมู เยปือจานา โอ

      (เธอนั้นช่างงดงาม)

      นูนึล เตลซูกา ออบซอ เน นูเน นอมัน โบยอ

      (ตอนนี้ไม่มีอะไรที่จะทำให้ฉันหยุดมองเธอได้)

      นอมัน คเยซก พาราโบโก ชิบจานา นัน โอ ชองมัล

      (ฉันมองเพียงแต่เธอเสมอ) ~

       

                  บทเพลงจบลงแล้ว คนที่อยู่หลังเปียโนเดินเข้ามาหาพร้อมกับดอกกุหลาบช่อโต แดฮยอนปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเวลาที่เห็นอีกคนอยู่ในชุดสูทเต็มยศแบบนี้ เขาดูดีแค่ไหน

       

                  ฮิมชานหยุดตรงหน้าแดฮยอน ก่อนจะยื่นช่อดอกกุหลาบในมือไปให้ และเมื่อเขายื่นมือไปรับมัน เสียงโห่ร้องยินดีก็ดังก้องไปทั่ว แดฮยอนยกมือเกาท้ายทอยแค่เขิน ก่อนจะโผเข้ากอดอีกคนอย่างแนบแน่น ไม่ต้องมีคำพูดใดๆ ออกมา ไม่มีคำขอเป็นแฟน แค่มองตากันก็สามารถสื่อสารกันได้ ตัวแดฮยอนน่ะ คุ้นเคยกับการสื่อสารแบบไม่ใช้คำพูดกับฮิมชานแล้วล่ะ ต้องขอบคุณรูปภาพพวกนั้นเลยนะที่ทำให้แดฮยอนเข้าใจฮิมชานโดยที่อีกคนไม่ต้องพูดมันน่ะ

       

       

       

       

       

       

       

       

       

       

       

       

       

       

       

                  “คิดอะไรอยู่ครับที่รัก หื้ม?”

       

                  แขนยาวของอีกคนโอบกอดเข้าที่เอวบาง แดฮยอนที่ยืนเหม่อออกไปนอกหน้าต่างถึงกับสะดุ้งเบาๆ ก่อนจะหันไปยิ้มกับคนที่ยืนซ้อนอยู่ข้างหลัง

       

                  “เปล่าหรอกแค่คิดถึงวันนั้น”

       

                  “หื้ม?”

                 

                  “ก็วันนั้นที่เราสองคนเป็นแฟนกันไง ผมอยากรู้ว่าพี่ขนเปียโนขึ้นไปยังไง”

       

                  ได้ยินดังนั้น ฮิมชานถึงกับหลุดขำพรืดออกมา ก่อนจะกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นไปอีก ฝังจมูกโด่งลงบนซอกคอกลิ่นคาราเมลอ่อนๆ ที่เขาหลงรักตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เจอ แดฮยอนส่งเสียงคิกคักในลำคอก่อนจะเอียงคอหลบ แต่ยิ่งหลบอีกคนมันก็ยิ่งตาม

       

                  “พี่ฮิมชาน!

       

                  “รักนะครับ แดฮยอนนา~”

       

                  แดฮยอนถึงกับอมยิ้ม เพราะช็อกโกแลตตรงหน้าที่ไม่รู้ว่าอีกคนเอาไปซุกซ่อนไว้ตรงไหน ฮิมชานรู้ดี ในวันวาเลนไทน์ ระหว่างกุหลาบกับช็อกโกแลต แดฮยอนเลือกอย่างหลังมากกว่า

       

                  “ไม่มีอะไรจะให้ที่รักเลยอะ...”

       

                  แดฮยอนตอบเสียงอ่อย ก่อนจะหมุนตัวมาเผชิญหน้ากับคนรัก ดวงตากลมโตแสดงออกอย่างชัดเจนว่ารู้สึกผิดและเศร้าใจอยู่ไม่มากก็น้อย

       

                  “แดฮยอนก็มีให้พี่แล้วไง”

       

                  “???”

       

                  “ความรักที่แดฮยอนมีให้พี่ทุกปี มันก็มากพอแล้วนะครับ”

       

                  “...”

       

                  “แดฮยอนน่ะ เป็นความสวยงามของปูซาน และยังเป็นความสวยงามที่สุดของพี่เลยนะครับ”

       

                  “รักพี่ฮิมชาน”

       

                  “รักแดฮยอนเหมือนกันนะ”

       

                  ฮิมชานค่อยๆ จรดริมฝีปากลงบนหน้าผากมนอย่างอ่อนโยน ความอบอุ่นแผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย แดฮยอนหลับตารับสัมผัสนั่น ก่อนที่อีกคนจะผละออก ฝ่ามือใหญ่ยีผมสีน้ำตาลอ่อนด้วยความเอ็นดูอย่างเต็มรัก

       

                  “น่ารักที่สุดเลย เด็กดื้อเอ๊ย!

       

                  แดฮยอนเขย่งตัวขึ้นไปจรดริมฝีปากลงบนส่วนเดียวกัน ก่อนจะรีบผละออกแล้วโผเข้ากอดอีกคนแน่น ฮิมชานหัวเราเบาๆ กับท่าทางน่ารักๆ ของอีกคน

       

       

       

       

       

       

       

       

       

       

       

                  “น่ารักแบบนี้พี่จะหนีไปไหนรอดกันล่ะ หื้มม?”

       

       

       

       

       

       

       

       

       

       

       

                  “ก็ใครจะให้หนี! ผมจะมัดพี่ไว้กับผมเลย!!!!

       

       

       

       

       

       

       

       

       

       

       

      -THE END-

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×